วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำขนมเบื้องขายเป็นอาชีพเสริมก็ดีนะ

ขนมเบื้อง

ขนมเบื้อง หวานๆ กรอบๆ แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบไม่หวานครับ ขนมเบื้องบางเจ้าก็ทำหวานเจียบ บางเจ้าก็ไม่หวานมาก แต่ยังไงก็ขายดีอยู่ดี ตามงานวัด หากินได้ไม่ยากเลย ถ้าคิดจะทำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ เพราะขนมเบื้องสามารอบแห้ง เก็บได้หลายวันอยู่ ขายขนมเบื้องเป็นอีกหนึ่งอาชีพสร้างรายได้ที่หน้าสนใจไม่น้อย ทำไม่ยากเท่าไร แถมยังสนุกด้วย วันนี้จะมาทำขนมเบื้องกัน รับรองได้ว่า เพื่อนๆ สามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพเสริมได้เลยทีเดียว
เรื่องราวเกี่ยวกับขนมเบื้อง
ขนมเบื้องเป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีหลักฐานกล่าวถึงในคำให้การขุนหลวงหาวัดว่า "บ้านหม้อปั้นหม้อข้าวหม้อแกงใหญ่เล็ก และกระทะเตาขนมครกขนมเบื้อง" ขนมเบื้องมี 2 แบบคือ
-ขนมเบื้องไทย โดยทั่วไปมี 2 หน้าคือหน้ากุ้งและหน้าหวาน หน้ากุ้งใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตสับละเอียดผสมกับพริกไทยและผักชีตำพร้อมมันกุ้ง นำไปผัดใส่น้ำตาล น้ำปลาหรือเกลือให้หอม ปัจจุบันมักเป็นหน้ามะพร้าวใส่สีแดง ส่วนหน้าหวานมีส่วนผสมของฟักเชื่อม ฝอยทองและพลับแห้งที่หั่นบางๆ ปัจจุบันมีแต่ฝอยทองกับครีม อย่างไรก็ตามในวังสวนสุนันทา มีหน้าหมูอีกอย่างหนึ่ง ใช้หมูสับคลุกคล้ากับกระเทียม พริกไทย รากผักชีโขลก ใส่พริกขี้หนู นำไปรวนพอสุก
-ขนมเบื้องญวน เป็นขนมที่เข้ามาพร้อมกับเชลยชาวญวนในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งถูกกวาดต้อนมาระหว่างสงครามสยาม-เวียดนาม ขนมนี้ทำจากแป้งละลายกับไข่ให้ข้น ตักแป้งเทลงในกระทะที่ทาน้ำมันไว้ แผ่เป็นแผ่นกลม ใส่ไส้แล้วพับกลาง
เริ่มทำขนมเบื้องกันดีกว่าครับ
ส่วนผสมตัวแป้ง
1.                   แป้งข้าวเจ้า 4 ขีด
2.                   แป้งสาลี 1 ขีด
3.                   น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
4.                   น้ำปูนใส 2 ถ้วย
5.                   ไช่เป็ด (เราใช้เฉพาะไข่แดง ส่วนไขขาวนั้นเราเอาไว้ทำหน้าครีม) 3 ฟอง

วิธีทำแป้ง
ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกัน พร้อมกับใส่น้ำปูนใสลงไปค้นให้เข้ากัน และใส่น้ำตาลปี๊บค้นให้น้ำตาลละลายแ้ล้วใส่ไขแดงลงไปคนให้เข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

ส่วนผสมหน้าครีม
1.                   ไข่เป็ด ให้ใช้เฉพาะไข่ขาวเท่านั้น 3 ฟอง
2.                   น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

วิธีทำครีม
-ให้เอาน้ำตาลทรายใส่ลงไปในไข่ขาว แล้วตีให้ฟูเป็นครีมสีขาว แค่นี้ก็นเสร็จเรียบร้อย

สำหรับไส้ ก็จะมี 
·                     ไส้หวาน คือใช้ฝอยทองมาใส่ไว้บนหน้าครีม
·                     แต่ถ้าเป็นไส้เค็ม ก็ให้เอากุ้งแห้งปั่นให้ละเอียดผสมกับมะพร้าวขูด แล้วนำไปผัดในน้ำมัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และสีผสมอาหารสีแดง ให้มีสีสวย ก็เป็นอันเสร็จ


วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

ขายปลาแดดเดียวเป็นอาชีพเสริมดีนะ

ปลาแดดเดียว

ขายปลาแดดเดียวเป็นอาชีพสร้างรายได้ที่หน้าสนใจไม่น้อยเลยที่เดียว ถ้าจะทำเป็นอาชีพเสริมก็หน้าได้อยู่นะครับ อาจจะทำขายแค่พอหมดเสาร์อาทิตย์ก็พอ เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่ในขณะนี้ หน้าจะลองดูนะครับ เพราะบ้านเรามีปลาสดที่ราคาถูกอยู่หลายชนิด และเมื่อนำมาทำปลาแดดเดียวก็จะทำให้มีกำไรเป็นเท่าตัวเลย มีเพื่อนผมคนนึงทำปลาแดดเดียวเป็นอาชีพเสริมในตอนเย็น ภรรยาเขาจะเป็นคนทำปลา พอตอนเย็นเขากลับมาจากทำงาน เขาก็จะเอาปลาที่ตากแล้ว ใส่รถมอเตอร์ไซพ่วงไปจอดขายหน้าตลาด เลยขอสูตรการทำมาฝากเพื่อนๆ กัน
ส่วนผสม
1.                   ปลาสด (ปลานิล 35 บาท/กิโล, ปลาดุก 35 บาท/กิโล, ปลาช่อน 108 บาท/กิโล, ปลาจีน 35 บาท/กิโล, ปลาสวาย 30 บาท/กิโล) 100 กิโล
2.                   เกลือ 10 กิโล
3.                   สีผสมอาหาร(สีส้ม, สีแดง) 1 ซอง
4.                   ผงชูรส 2 ช้อนกินข้าว
5.                   ดินประสิว 2 ช้อนชา
6.                   น้ำ

วิธีทำ
·                     นำปลามาขอดเกล็ด ตัดหัว และแล่แบะหลัง เอาไส้ปลาออก แต่ถ้าเป็นปลาสวายให้หั่นเป็นท่อน ถ้าเป็นปลานิลให้เอาหัวและใส่ออกหลังจากขอดเกล็ดแล้ว แล้วให้ปั้งสามครั้งปบริเวณข้างลำตัวทั้งสองข้าง
·                     หลังจากนั้น ให้นำปลาที่ทำแล้วมาล้างน้ำให้สะอาด 2 ครั้ง
·                     เมื่อเราล้างสะอาดดีแล้ว ให้นำปลาทั้งหมด มาแช่น้ำเกลือ ในอัตราส่วนเกลือ 10 กิโลกรัมดินประสิว 2 ช้อนชา ผงชูรส 2 ช้อนกินข้าว และสีผสมอาหารสีส้ม หรือสีแดง 1 ซอง ผสมน้ำให้แช่ท่วมตัวปลา แช่ทิ้งไว้ 3 - 4 ชั่วโมง
·                     เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้นำขึ้นมาล้างน้ำสะอาด
·                     แล้วนำไปตากแดดประมาณ 3 ชั่วโมง พร้อมขาย

จะว่าไปแล้ว ขายปลาแดดเดียวหน้าจะเป็นอาชีพเสริมที่หน้านใจไม่น้อยเลยนะ ถ้าใครจะทำปลาแดดเดียวเป็นอาชีพอิสระ ผมก็เห็นดีด้วยเพราะทำให้มีรายได้ใช้จ่ายในครอบครัว อาชีพค้าขายไม่หน้าอายหลอกนะ แต่ไม่มีอาชีพแล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่ซิหน้าอายกว่า เหมือนที่เขาบอกไว้ว่า "อย่าอายทำกิน อย่ามิ่นเงินน้อย" จริงนะครับ 

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

ข้าวหมูแดง ทำเป็นอาชีพเสริม เสาร์-อาทิตย์


ข้าวหมูแดงเป็นอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมกันไม่น้อย ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทย และความสะดวกสบายในการรับประทาน ข้าวหมูแดงเป็นอาชีพสร้างรายได้อย่างงดงามอีกอาชีพหนึ่ง ใครที่คิดจะทำเป็นอาชีพก็ลองทำกินดูก่อนนะ อาชีพขายข้าวหมูแดงเป็นอาชีพที่อิสระอีกอาชีพหนึ่งจะนำมาทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ในวันเสาร์อาทิตย์ก็ดีนะ และข้าวหมูแดงก็เป็นที่นิยมทำขายกันมากในแหล่งชุมชนเมือง ตลาดตอนกลางคืน พ่อค้าแม่ค้าส่วนมากมาจับอาชีพขายข้าวหมูแดงจะรู้สึกว่าร่ำรวยกันทุกคน แต่ที่สำคัญเราต้องมีทำเลขายของที่ดีก่อนนะจึงจะขายดีร่ำรวยแน่ ต่อไปเรามาดูการทำข้าวหมูแดงกันเลยดีกว่า
ส่วนผสมข้าวหมูแดง
เนื้อหมูส่วนสะโพก                             1              กิโลกรัม
ซอสมะเขือเทศกระป๋อง                     3              ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว                                             1              ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ                                               1              ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง                                1              ช้อนโต๊ะ
เหล้าโรงหรือเหล้าขาว                        1              ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง                2              ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา                                              2              ช้อนชา
น้ำมันพืช                                             2              ช้อนชา
สีแดงสำหรับผสมอาหาร                     เล็กน้อย
วิธีทำข้าวหมูแดง
เอาเนื้อหมูตรงสะโพกมาหั่นเป็นชิ้นยาวและหนาพอสมควรสัก 1 นิ้วเศษ ควรเอาความคมของส้อมจิ้มไปทั่วๆ ชิ้นหมู เพื่อให้เครื่องปรุงและส่วนผสมที่เอามาหมักซึมซาบเข้าไปได้สะดวก เอาชิ้นหมูลงใส่ไว้ในกะละมังใบย่อม เพื่อคลุกเคล้าผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ
ใส่เครื่องปรุงและส่วนผสม ลงไปในชิ้นหมู คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน โดยมีซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช เหล้าขาวหรือเหล้าโรง น้ำตาลทรายแดง เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำมันงา สีแดงผสมอาหาร หมักเอาไว้สัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุงและส่วนผสมแทรกเข้าไปในเนื้อหมูมากๆ จากนั้นเอามาย่างบนเตาถ่านหรือจะเอาไปอบในเตาอบก็ได้เช่นเดียวกันแล้วแต่สะดวก
เครื่องปรุงน้ำราดหมูแดง
น้ำซุปกระดูกหมู                               6              ถ้วยตวง
ผงพะโล้                                           1              ช้อนชา
เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง               2              ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว                                           3              ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ                                             1              ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม                               5              ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปิ๊บ                                        3              ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น                                      1              ช้อนชา
แป้งข้าวโพด                                     2              ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วป่น                                    3              ช้อนโต๊ะ
วิธีปรุงน้ำราดหมูแดง
เอาหม้อมาใส่น้ำซุปลงไปตามคำแนะนำก่อนอื่น
ยกตั้งบนเตาไฟ ต้มให้น้ำซุปเดือดแล้วใส่เครื่องปรุงและส่วนผสมลงไปได้ทันที ได้แด่ผงพะโล้ เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสหอยนางรม น้ำตาลปิ๊บ พริกไทยป่น ถั่วลิสงคั่วป่นคนให้กัน
หากดูว่าน้ำน้อยเกินไปก็เติมน้ำซุปลงไปได้อีกพอสมควร ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำซุปเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วราดลงไปทีละน้อย ให้มีลักษณะเหนียว ข้น กำลังพอเหมาะ
ข้าวสวย 1 จาน หั่นหมูแดงวางลงบนข้าวนี้ ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงได้ดีแล้ว วางต้นหอม 2-3 ต้น แตงกวา พริกดองน้ำส้ม ก็อร่อยแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

อาชีพเสริม ขายข้าวแกง

อาชีพเสริม ขายข้าวแกง

ใครอยากขายข้าวแกงมั้งครับ วันนี้มีแนวคิดดีๆ มาฝากกันครับ อาชีพขายข้าวแกงก็สามารถสร้างกำไรให้แก่พ่อค้าแม่ได้ไม่น้อย ยิ่งถ้ารสชาติอร่อย ถูกปากละก็ ขายกันตักแถบไม่ทัน ยิ่งปัจจุบันนี้ ผู้คนจะทำอะไรก็เร่งรีบกันไปเสียหมด จะเอาเร็วเอาด่วนกันทั้งนั้น มีจำนวนจำกัด จึงต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการหุงหาอาหาร อาหารจานด่วนแบบง่ายๆก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการกันบ่อยครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นการประหยัดเวลาแล้ว ยังมีรสชาติอร่อย มีความสะดวกและรวดเร็วโดยที่เราไม่ต้องใช้เวลาทำกินเอง สามารถเลือกกับข้าวได้หลายอย่างในจานเดียว ซื้อใส่ถุงกลับไปทานที่บ้านก็ได้และมีอาหารมากมายให้เราเลือกรับประทาน ข้อดีมีเยอะ
ร้านข้าวแกง
ร้านขายข้าวแกง เราสามารถพบเห็นได้ทั้งแบบขายบนรถเข็นแบบเข็นแล้วมีโต๊ะ-เก้าอี้มาวางเป็นร้านเล็กๆ ให้ลูกค้านั่งรับประทาน ข้อดี คือเข็นขายได้หลายที่ สามารถหาลูกค้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว หรือจะเป็นแบบเจ้าที่เล็กๆ ขายตามชุมชน ห้าง ตลาด ที่มีผู้คนเยอะ หรืออย่างดีหน่อย ที่เห็นกันก็ เป็นบ้านหรืออาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านขายข้าวแกง และจากประสบการณ์เห็นว่า ร้านตามมหาวิทยาลัย จะขายดีมากๆๆ  เพราะเป็นแหล่งชุมชน ที่มีลูกค้าอย่างนักศึกษาเป็นตัวหลัก นักษาส่วนมากก็จะซื้ออาหารจานด่วนกินกัน มีส่วนน้อยที่จะทำกับข้าวกับปลากินกัน คุณว่าจริงมั๊ย เพราะต้องการความสะดวกสะบาย และรวดเร็ด ประหยัดเวลา ร้านขายข้าวแกงอีกแบบหนึ่ง ก็จะเป็นร้านขายข้าวราดแกงโดยเฉพาะ การเปิดร้านขายข้าวราดแกง มีพนักงานคอยช่วยดูแลเอาใจใส่ลูกค้าที่มารับประทานอาหารด้วย ทำให้ดูมี class และจะขายในราคาที่สูงขึ้น เพราะลูกค้าที่เลือกเข้าร้านเหล่า ก็จะพวกที่มีกะตังกันทั้งนั้น แตะว่าต้องทำร้านให้ดู สะอาด สดใส รมรื่น หน้านั้ง อะไรประมาณนี้ ยิ่งถ้าอาหารอร่อย เพราะถ้าร้านของเราทำอาหารอร่อยเชื่อว่าจะต้องมีลูกค้ามาอุดหนุนเป็นจำนวนมากแน่ๆ ถ้าเรามีทำเลร้านที่ดีมีคนเดินพลุกพล่านหรือจะเป็นแบบร้านข้าวแกงข้างทาง เป็นทางผ่านของคนเดินทางให้มาใช้บริการในช่วงพักรถก็ได้ พนักงานให้บริการดี มีใครบ้างหละที่มากินที่นี่แล้วจะไม่ประทับใจ ครั้งต่อๆ ไปจะต้องกลับมากินอีกหนแน่นอนเลยค่ะ
อาชีพเสริมขายข้าวราดแกง
อาชีพขายข้าวแกงนั้น นอกจากจะได้กำไรดีแล้วยังเป็นธุรกิจครอบครัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวช่วยกันดูแลและคอยเอาใจใส่ในบริการ พัฒนารสชาติอาหาร และเอาความต้องการของลูกค้าเป็นหลักเข้าไว้ ระยะยาวแล้วจะดีเองครับ หาเมนูใหม่ๆ เด็ดๆ มาเพิ่มเติมในร้านบ้าง เพราะอย่างเราเข้ารับประทานอาหารทุกวันๆ มีแต่แกงเดิมๆ เราก็เบื่อ ใช่มั๊ยครับ แกงไหนที่ขายไม่เคยหมดก็ลองเปลี่ยนแกงใหม่ๆ ดูบางก็คงจะดู ขอแนะนำเลยละกัน เมนูอาหารเด็ดปักษ์ใต้ ก็จะมี คั่วกลิ้งหมู แกงคั่วกระดูกหมู ข้าวยำ ปลาหมึกย่างขมิ้น น้ำพริกกุ้งเสียบ หลนกุ้งส้ม ไข่ตุ๋นกุ้งส้ม ปลาทูสอดไส้ บูดูทรงเครื่อง ปลาเนื้ออ่อนทอดขมิ้น เมนูเด็ดๆทั้งนั้น นึกแล้ว หิ้วข้าวขึ้นมาทันที อีกอย่างที่อย่าลืมเป็นเด็ดขาด เอาใจใส่เรื่องของความสะอาด บริการด้วยรอยยิ้มและความเอาใจใส่ เพียงเท่านี้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านก็จะประทับใจในการบริการของเรา และถ้ารสชาติอาหารของร้านเราอร่อยรับรองได้ว่า เราไม่ต้องติดประกาศโฆษณาให้เปลืองเงินเลย ลูกค้าที่เขามากินนี่แหละที่จะช่วยโฆษณาร้านข้าวแกงของเราเอง เป็นไงเป็นการทำการตลาดที่ครบสูตรเลยครับ